ไลฟ์โค๊ช ? จุดเปลี่ยนในชีวิต ?

จุดเปลี่ยน


    ทุกๆปีที่ผ่านพ้นไปในชีวิตของผม จะมีเรื่องนึงที่ผมจะย้อนกลับมาคิดถึงมันทุกครั้งนั่นคือการมองระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาของเรา เหตุการณ์ที่หลอมรวมให้เรากลายเป็นคนในแบบปัจจุบันที่เป็นอยู่ และเหตุการณ์พิเศษที่ควรค่าแก่การนำมาขบคิดในทุกๆปีนั่นคือเหตุการณ์ที่กลายเป็น "จุดเปลี่ยน" ในชีวิตของเรา

    สอดคล้องกับบทความก่อนหน้าของผมที่แสดงทัศนะในเรื่องของไลฟ์โค้ช เนื่องจากเป็นอาชีพที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของคนบางคนได้หากสามารถเข้าถึงปมที่อยู่ภายในจิตใจของคนๆนั่น 

    เพื่อให้เข้าใจต้องเท้าความไปในสมัยช่วงที่ผมยังเรียนอยู่ในช่วง ประถม - มัธยมตอนปลาย ผมก็เป็นเด็กคนนึงที่ใช้ชีวิตแบบธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนักหากแต่ด้วยความที่เป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครตามแบบฉบับ Introvert ทั่วไป ทำให้การสื่อสารกับคนแปลกหน้า หรือความสามารถในการเข้าสังคมอยู่ในระดับที่เรียกว่า "วิกฤติ" ขนาดไหนที่เรียกว่าวิกฤติหน่ะหรอ เคยมีเด็กผญคนนึงมาคุยถามชื่อผม ผมกลับตอบออกไปเป็นกลอนซะอย่างนั่น ทุกวันนี้ผมจำหน้ากับชื่อของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ฮา

    ในช่วงชีวิตตอนนั่นผมรู้สึกว่าครอบครัวผมเลี้ยงดูผมด้วยแรงกดดัน และความคาดหวังมหาศาล ทำให้ผมไม่สามารถทำ หรือเป็นในสิ่งที่ผมอยากจะเป็นได้ ก่อเกิดให้ผมกลายเป็นเด็กที่มีปมปัญหาไปโดยไม่รู้ตัวทั้งทะเลาะกับแม่ หนีออกจากบ้าน ทุกวินาทีที่อยู่บ้านเปรียบสเมือนผมกำลังอยู่ในขุมนรกที่คอยทรมานผมไปโดยไม่มีวันจบสิ้น ความคิด และทัศนคติในตอนนั่นมีแต่โทษพ่อ แม่ โทษทุกสิ่งยกเว้นตัวเอง ผลการเรียนนะหรอ เรียกได้ว่าเกือบไม่รอดเลยละ

    จุดเปลี่ยนที่สำคัญ : ผมอาจจะกลายเป็นเด็กค้ายา หรือเด็กแว้น ขี้เหล้าเมายาไปแล้วก็ได้ หากติดอยู่ที่ว่าผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เรียกได้ว่าไม่เคยเที่ยวหรือออกไปเจอเพื่อน เพราะอ่านแต่หนังสือเลยละ ทำให้ผมได้เห็นคนดังๆในอดีตที่เค๊าประสบความสำเร็จ และผมอยากที่จะเป็นแบบคนเหล่านั่น ติดแค่ผมไม่มีพรสวรรค์ อย่าว่าเรื่องพรแสวงเลยแค่คุยกับคนแปลกหน้าก็ยากแล้ว ฮา. ด้วยความคิดที่อยากพัฒนาตัวเองผมเลยหันกลับมามองดูตัวเองใหม่ว่าตัวเองเละเทะขนาดไหน และผมก็ได้ค้นพบจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ก็ตอนอยู่ ม.ปลายนี่เอง...

    ไลฟ์โค้ชที่อยู่ใกล้ตัวเรา แต่เรา "ไม่เคยเห็นค่า" พ่อของผมนั่นคอยสอนผมเสมอในทุกๆเรื่องที่ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่ออนาคต หรือการใช้ชีวิตอาทิเช่น การวางแผนทางการเงิน วิธีคิด หรือแม้แต่ความรู้รอบตัวอื่นๆอีกมากมาย แต่ผมไม่เคยสนใจหรือเห็นค่ามัน เพียงเพราะทัศนคติที่เลวร้าย และบดบังความหวังดีที่ไลฟ์โค้ชส่วนตัวของผมมีให้ ทัศนคติที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักวาล ไม่พยายามที่จะเข้าใจ หรือเข้าหาคนอื่นเพียงเพราะยึดเอาตัวเองเป็นหลัก และกำแพงที่ชื่อว่า ฉันคือ "Introvert" 

    ไลฟ์โค้ชที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ "สำคัญ" ในชีวิต ไลฟ์โค้ชท่านนี้ผมไม่เคยพบตัวเขา เขาไม่เคยมาโค้ชผม หากแต่ผมชื่นชอบเขาเป็นการส่วนตัวจากการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เรียกว่า "มายาจิตร" 

    อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผมนั่นมีแนวคิดที่จะปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง หากแต่มันไม่เคยสำเร็จสักที อาจจะด้วยอะไรก็ตามแต่ ผมก็ไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อผมได้มีโอกาศอ่านหนังสือของคุณ "วิน เอี่ยมอ่อง" ผมพบว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ (กับตัวเอง) ผมซื้อหนังสือทุกเล่มของเขาที่เขาเขียนออกมา และอ่านมันด้วยความตั้งใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะเข้าใจและในที่สุด ผมพบว่าผมสามารถปลดล๊อกกำแพงที่ชื่อว่า "Introvert" ของผมลงได้ ตัวตนของเราต้องไม่ใช่อุปสรรคของเรา เมื่อไหร่ที่ตัวตนของเราหยุดยั่งการก้าวเดินไปข้างหน้าของเราแล้วนั่น นั้นคือกำแพงที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง จากเด็กหนุ่มที่ไม่สามารถคุยกับใครได้ จากเด็กหนุ่มที่ได้แต่เดินตามหลังคนอื่น และยอมที่จะเสียผลประโยชน์ของตัวเองไป เพื่อแลกกับความสบายใจจอมปลอม ให้กลายเป็นคนที่ผู้คนภายนอกมองว่าเป็นคนที่มีภาวะผู้นำ กลายเป็นคนที่พยายามนำคนอื่นไปในทางที่ถูกต้อง สามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่เอามาใช้เป็นกำแพงขวางกั้นการพัฒนา สามารถพูดปลุกใจทีมของตัวเอง หรือแม้แต่ยิ้มรับเมื่อมีปีศาจเข้ามาทดสอบความอดทนได้ ขอบคุณจริงๆครับ ไลฟ์โค้ชที่ไม่เคยเจอกัน "วิน มายาจิตร"

















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

gene recombination (Genetic Recombination)

Golgi

สารภี Mammea siamensis Kosterm.